วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2559


การเรียนการสอนแบบมาทาล (Matal Program Approach)


" การสังเกตด้วยการสัมผัสของจริง
เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะพื้นฐานวิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก"





           การสอนวิทยาศาสตร์แบบมาทาลเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาโปรแกรมวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษาเป็นโครงการร่วมระหว่างศูนย์การสอนวิทยาศาสตร์กับกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมของประเทศอิสราเอล ซึ่งดีน่า สตาเคิล ( Dina Satchel ) อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเทลอาวิฟเป็นผู้
คิดค้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1973



แนวคิดพื้้นฐาน

             การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบมาทาล  เป็นการสอนที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง มาจากแนวคิดพื้นฐานที่ว่าวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานของการเรียนรู้โลกรอบตัว  การรู้จักสังเกต  การคิดอย่างมีเหตุผลจากการสังเกตและสัมผัสธรรมชาติโดยตรง  การเรียนรู้โลกรอบตัวและตนเองด้วยการรู้จักรูปสัณฐานของสิ่งต่างๆ  จำแนกความแตกต่าง  ความเฉพาะ ความสืบเนื่อง  การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างปฏิกิริยาที่เกิดอย่างเต็มที่  สร้างความใคร่รู้และมีเจตคติที่ดีกับวิทยาศาสตร์  เพราะการเรียนโดยมีปฏิสัมพันธ์กับโลกแวดล้อมรอบตัวสร้างความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ตนต้องรับผิดชอบ

             จากแนวคิดดังกล่าวสรุปได้ว่า การจัดการเรียนการสอนของโปรแกรมมาทาล เป็นการสอนที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง และมุ่งให้ผู้เรียนได้คิดค้น พบหลักความจริงตามธรรมชาติด้วยตนเอง จากเนื้อหาในแต่ละหน่วยเด็กมีโอกาสพัฒนาความคิดอย่างเต็มที่ สร้างความใคร่รู้และมี เจตคติที่ดีกับวิทยาศาสตร์



การเรียนการสอน

              การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบมาทาลเริ่มต้นจากการฝึกเด็กให้รู้จักสังเกตการเปลี่ยนแปลงของวัตถุและสิ่งแวดล้อมรอบตัว  เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับธรรมชาติของสิ่งต่างๆและปรากฏการณ์
จากนั้นจึงนำไปสู่การรับรู้สัมผัสของร่างกาย  และถ่ายไปสู่การเรียนรู้เพื่อเชื่อมโยงตนเองกับสิ่งต่างๆสร้างความคิดในเรื่องมิติสัมพันธ์เพื่อการเรียนรู้รูปทรงของวัตถุ  เส้น  และพื้นที่  ด้านรูปพรรณสัณฐานของวัตถุสิ่งของจนถึงความเข้าใจที่จะจัดหมวดหมู่และจำแนกประเภทสิ่งของได้  ในกระบวนการของโปรแกรมมาทาลได้จัดกรอบเนื้อหาโดยจำแนกออกเป็น 4 หน่วยดังนี้



                                            หน่วยที่ 1 การสังเกตโลกรอบตัวเรา
                                            หน่วยที่ 2 การสัมผัสและการรู้
                                            หน่วยที่ 3 รูปทรงและความสัมพันธ์
                                            หน่วยที่ 4 การจัดหมวดหมู่และจำแนกประเภท

              แต่ละหน่วยเนื้อหาดังกล่าวจะมีกิจกรรมการเรียนการสอนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะทำให้เด็กสนุกสนานกับการเรียนและเกิดความคิดสร้างสรรค์


หลักการสอน
               การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบมาทาลเป็นชุดการสอนสำเร็จรูป  แต่ละหน่วยการเรียนจะมีลำดับหัวข้อการเรียนจากง่ายไปยาก มีกิจกรรมและวิธีการสอนประจำหน่วยซึ่งแต่ละหน่วย
หลักการสอนที่สำคัญ คือ ผู้สอนต้องสังเกตตามหน่วยที่กำหนดจากหน่วยที่ 1 ถึง 4  แต่ละหน่วยครูจะต้องเตรียมการสอนและดำเนินกิจกรรมตามหน่วยที่กำหนด  อาจมีการปรับอุปกรณ์ได้ตามความ
เหมาะสม ส่วนประกอบของเนื้อหาทั้ง 4 หน่วยมีดังนี้

               หน่วยที่ 1 การสังเกตโลกรอบตัวเรา  เป็นการศึกษาสิ่งแวดล้อมรอบตัว  การสังเกตุสังเกตความแตกต่างของสิ่งรอบตัวเพื่อเรียนรู้ลักษณะของสิ่งที่สังเกต  หน่วยนี้ประกอบด้วยหน่วยการเรียนย่อย 
6 หน่วย ดังนี้
               - การสังเกตสิ่งของในห้องเรียนและในบ้าน
               - การสังเกตคุณสมบัติของสิ่งของต่างๆ
               - การสังเกตวัตถุดิบ
               - การสังเกตและอธิบายวัตถุสิ่งของ
               - การสังเกตท้องฟ้าและอากาศ
               - การสังเกตพืชและสัตว์

               หน่วยที่ 2 การสัมผัสและการเรียนรู้เป็นการเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้าใจในการรับรู้และ
ตอบสนอง ประกอบด้วยหน่วยการเรียนย่อย 7 หน่วย  ดังนี้
               - ตัวเราและร่างกายของเรา
               - การเห็นและการรู้สิ่งที่เราเห็น
               - การได้ยินและการรู้สิ่งที่เราได้ยิน
               - การได้กลิ่นและการรู้สิ่งที่เราได้กลิ่น
               - การรับรสและการรู้วิธีชิมรส
               - การรับสัมผัสและการรู้ การรับความรู้สึกของผิวหนัง
               - การรับรู้ความรู้สึกสัมผัสและการรู้
               หน่วยที่ 3 รูปทรงและความสัมพันธ์ของรูปทรง  เป็นการสร้างเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับมิติสัมพันธ์  ประกอบด้วยหน่วยการเรียนย่อย 5 เรื่อง  ดังนี้
               - รูปทรงของวัตถุ
               - รูปทรงยาวรูปทรงแบนราบ
               - เส้นและรูปทรง
               - รูปทรงตันและวัตถุในที่ว่าง

               หน่วยที่ 4 การจัดหมวดหมู่และจำแนกประเภท เป็นการฝึกให้เด็กได้เรียนรู้การจำแนกและการจัดหมวดหมู่สิ่งต่างๆโดยเน้นความสัมพันธ์ของวัตถุจากคุณสมบัติของวัตถุนั้น  ประกอบด้วยหน่วยการเรียนย่อย 3 เรื่อง ดังนี้
               - ชุดของวัตถุ
               - การจำแนกประเภทตามคุณสมบัติข้อเดียว
               - การจำแนกประเภทตามคุณสมบัติสองข้อ




วิธีจัดการเรียนการสอน

               การจัดการเรียนการสอนจะเริ่มต้นทีละหน่วยตามลำดับ  ซึ่งในการสอนแต่ละหน่วยนั้น
ครูสามารถดำเนินการเรียนการสอนแต่ละขั้นของการสอน  ถ้าจะให้ดีครูต้องจัดกลุ่มเด็กให้เป็นกลุ่มเล็กไม่เกิน 6 คน  ในบางหัวข้อเรื่องควรให้ออกนอกสถานที่เพื่อเสริมสร้างความเข้มข้นในการเรียนโดยมีลำดับขั้นตอนการเรียนการสอนดังนี้
  • การเตรียม
                         จัดเตรียมอุปกรณ์การสอนตามกิจกรรมการสอนประจำหน่วยที่กำหนดการ
  • ดำเนินการ
               ขั้นนำ
                          ครูบอกจุดประสงค์ของการเรียนและเตรียมผู้เรียนเข้าสู่กิจกรรม

               ขั้นสอน
                          ครูดำเนินกิจกรรมตามหน่วยด้วยการ
                          - กระตุ้นให้สังเกต
                          - กระตุ้นให้ตอบ
                          - เปิดโอกาสให้ทดลอง
                          - ให้เด็กแสดงความคิดเห็น

                ขั้นสรุป
                          ครูสรุปข้อความรู้ที่ได้จากการเรียนประจำหน่วย



ตัวอย่างกิจกรรมการสอนเรื่องสี  
(นำมาจากหนังสือแปลโดย ดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา,ธรรมชาติสู่อัจฉริยภาพ, 2539: 56-57 )


กิจกรรมที่ 1 : สีสันสารพันสี

จุดประสงค์:
            รู้จักและบ่งบอกได้ว่าสีที่เห็นเป็นสีอะไร

อุปกรณ์ : 
            บัตรกระดาษแข็ง 9 แผ่นขนาด 80 x 80 มม.มีสีแดง ฟ้า เหลือง เขียว ส้ม ม่วงคราม น้ำตาล ขาว และดำ

ขั้นตอน :   ให้วางบัตรสีต่างๆ ที่มีทั้งหมดตรงหน้าเด็ก บอกให้เด็กเลือกบัตรคนละใบ  แล้วก็บอกชื่อสีให้
ถูกต้อง  คำถามที่จะช่วยเด็ก
            - ชูบัตรสีเหลืองให้ครูดูซิ
            - ชูบัตรสีขาวให้ครูดูซิ
            - บัตรของเธอสีอะไร?
            - บอกให้เด็กเอาบัตรวางกลับไปที่กองบัตร แล้วพูดว่า " ให้หยิบไปแต่บัตรสีแดง สีแดง
เท่านั้นนะ "
            - ให้ถามเด็กที่ไม่มีบัตรอยู่ในมือเลย " ทำไมเธอถึงไม่มีบัตรอยู่ในมือเลย"
            - ให้ชี้ไปที่บัตรซึ่งกองอยู่รวมกัน แล้วถามว่า " เธอจะพูดถึงบัตรกองนี้ว่าอย่างไรได้บ้าง? ทำไมมันจึงกองรวมกันอยู่บนโต๊ะอย่างไร?
            - จัดวางบัตรเรียงให้เป็นแถวบนโต๊ะ แล้วพูดว่า " ครูกำลังมองไปที่บัตรสีแดง หยิบขึ้นมาให้ครูดูซิว่ามันเป็นใบไหน" และ " ครูกำลังมองบัตรที่ไม่ใช่สีแดง หยิบให้ครูดูซิว่ามันเป็นใบไหน
            - "ครูกำลังมองดูบัตรที่อยู่ใกล้บัตรสีแดง ใบที่อยู่ใกล้กันมากๆนะ หยิบให้ครูดูซิว่ามันเป็นใบไหน" ถ้าบัตรสีแดงอยู่ระหว่างบัตรสีสองใบที่อยู่ติดกัน  ให้เด็กชี้ไปที่บัตรใดบัตรหนึ่งแต่เพียงใบเดียวให้ยืนยันคำตอบของเด็กว่าถูกหรือผิดและสนับสนุนให้เด็กมองไปทางอื่นๆบ้าง
           - "ครูกำลังมองไปที่บัตรใบแรกในแถวชี้หรือชูให้ครูดูซิว่ามันเป็นบัตรใบไหน บัตรนั้นสีอะไร ถ้าเด็กชี้ไปที่ปลายแถวข้างหนึ่งเท่านั้น  ก็ให้รับรองคำตอบของเขาแล้วพูดเพิ่มเติมว่า "มีบัตรใบไหนอีกไหมที่จะเป็นใบแรกได้?
           - ให้เด็กมองไปทางอื่นบ้าง

           การจบกิจกรรม คือ การสรุปให้เด็กรู้ว่ามีสีอะไรบ้าง  การเรียนตามกิจกรรมประจำหน่วยนี้ เด็กจะได้คิดตามคำถามที่ครูใช้กระตุ้น เกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ของกิจกรรม





การประเมินผล

           การสังเกตจากการร่วมกิจกรรม และ การตอบคำถามที่แสดงว่าเด็กสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆ
เข้าใจความหมายของรูปทรง  จัดแยกสิ่งของแต่ละกลุ่มได้ถูกต้อง  ทั้งนี้การเรียนรู้แต่ละหน่วยให้ประเมินตามจุดประสงค์การเรียนรู้ประจำหน่วยนั้นๆ




การจัดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้

           แม้ว่าการจัดการเรียนการสอนแบบมาทาลจะมีอุปกรณ์การเรียนตามหน่วยการเรียนแล้วก็ตาม
มุมวิทยาศาสตร์ยังเป็นวงที่สำคัญสำหรับการสอนแบบมาทาล  ในห้องเรียนต้องมีการจัดมุมแสดงวัตถุธรรมชาติที่เด็กสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา  วัตถุธรรมชาติ ได้แก่ ต้นไม้  ก้อนหิน  เป็นต้น  มุมการเรียนรู้ควรมีแสงสว่างมากพอ อากาศถ่ายเทดี  มีวัตถุสับเปลี่ยนอยู่เสมอ เพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากรู้อยากเรียน
ครูต้องจัดวางตกแต่งให้สวยงามน่าสนใจ  หากเด็กจะนำมาสมทบด้วยก็ได้  ส่วนวัตถุที่เด็กเบื่อควร
คัดออกไม่ต้องนำมาแสดง  วัตถุที่แสดงแต่ละชิ้นควรมีป้ายกำกับ  หรือมีคําอธิบายเพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้และค้นคว้าด้วยตนเอง

บทบาทครู

            บทบาทของครูในการจัดการเรียนการสอนมีดังนี้ 
            1.  ครูเป็นผู้วางแผนการสอน  ในการจัดการเรียนการสอนแบบมาทาลต้องใช้อุปกรณ์เพื่อการเรียนการสอนตามลำดับขั้นตอน  ผู้สอนต้องวางแผนขั้นตอนการสอน  พร้อมการจัดเตรียมอุปกรณ์หรือวิธีการสอนที่จำเป็น
            2. ครูเป็นผู้นํากิจกรรม  การสอนแบบมาทาลเป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ต้องมีปฏิบัติ
มีการลงมือกระทำ ( Action Process) ครูต้องเป็นผู้นําให้กิจกรรมดำเนินไปตามจุดประสงค์ของการเรียนการสอน
            3. ครูเป็นผู้กระตุ้นการเรียนรู้  ครูต้องรู้จักการใช้คำถามเพื่อให้เด็กสามารถพัฒนาการเรียนรู้อย่างเป็นนักวิทยาศาสตร์  การเรียนรู้ที่ดีอยู่ที่คำถามของครูที่ใช้กระตุ้นเด็ก  ประเด็นคำถามจะเป็นดังนี้

คำถามให้สังเกต
  • ให้จำแนกสิ่งของที่มีลักษณะเหมือนกัน  เช่น  แข็งเหมือนกัน  นิ่มเหมือนกัน
  • เด็กรู้ได้อย่างไรว่ามันเป็น....( สิ่งที่เด็กหยิบ)
  • ให้แยกสิ่งที่ไม่ใช่...ออก
  • มีอะไรเหมือนกันบ้าง มีอะไรที่ไม่เหมือนกันบ้าง

ถามให้วิเคราะห์
  • มีอะไรอยู่ในตะกร้านี้บ้าง
  • ทำไมดินสอต้องแข็ง ดินน้ำมันต้องนิ่มง
  • ให้ดูสิ่งของในกองแล้วจำแนกกลุ่มสี มีสีอะไรมากที่สุด
  • ทำไมเราต้องใช้กระดาษชำระเช็ดหน้า  ทำไมไม่ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์

คำถามสังเคราะห์
  • เราจะใช้ตะกร้าทำประโยชน์อะไร
  • สิ่งที่เด็กมองเห็นเรียกว่าอะไร
  • ดอกไม้ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง

คำถามประเมิน
  • จะเกิดอะไรขึ้นถ้าโต๊ะมี 2 ขา
  • อะไรแข็งกว่ากัน
  • ให้พยายามหาของที่ใช้เป็นที่นั่งได้ในห้องนี้
  • ให้ดูผลไม้บนโต๊ะนี้แล้วให้หาว่า มีอะไรที่รสน่าจะเปรี้ยวและสิ่งใดที่มีรสน่าจะหวาน
  • จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราเอาน้ำเทใส่น้ำแกงที่อร่อย
  • ถ้าถุงเท้าแข็งจะเป็นอย่างไร
         
            การตั้งคำถามมีความหมายกับการจัดกิจกรรมวิทยาศาสตร์แบบมาทาลมาก  เพราะจะกระตุ้นให้เด็กคิดและสังเกตสิ่งที่กำลังเรียนรู้ การเรียนวิทยาศาสตร์ แท้จริงคือ "การสืบค้นข้อความรู้ด้วยการสังเกตคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมิน  เพื่อให้ได้คำตอบอย่างมีเหตุผล "



การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง

            เนื่องจากการสอนวิทยาศาสตร์แบบมาทาล  เป็นโครงการที่ทดลองสำหรับเด็กประถมศึกษาและเป็นชุดการสอน  การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการเรียนของเด็กที่อยู่ในแง่ของการรับทราบผลการ
เรียนรู้  และร่วมติดตามความสนใจของเด็กในการใช้ทักษะพื้นฐานและการเรียนวิทยาศาสตร์ที่บ้านโดยเป็นการทำงานร่วมกันและประสานการเรียนรู้ระหว่างครู ผู้ปกครอง และ เด็ก



การนำไปใช้

             การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์แบบมาทาล  เป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นความสามารถทางวิทยาศาสตร์เป็นการเฉพาะ  แต่ในการจัดการเรียนการสอนที่แท้จริงได้เน้นการส่งเสริมพัฒนาการร่วมด้วยเช่นกัน  อย่างน้อยก็เป็นการจัดการเรียนการสอนที่อยู่ในกรอบของตารางกิจวัตรประจำวัน  ที่เด็กสามารถได้เล่นและได้รับประสบการณ์ด้านอื่นด้วย  การเรียนการสอนแบบมาทาลเป็นการเรียนเสริมที่การจัดมุมการเรียนรู้ยังคงอยู่  แต่ให้เน้นความเป็นวิทยาศาสตร์หรือเสริมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ประกอบกับการเรียนรู้ด้านอื่นๆ ไปพร้อมกัน   การนำกิจกรรมการสอนมาใช้กับเด็กปฐมวัย ในบางเรื่อง  บางอุปกรณ์ครูอาจจำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับวัยและพัฒนาการของเด็ก




ดูวิดีโอ ปฐมวัย ธรรมชาติวิถีพุทธ ตอน 4 นวัตกรรมมาทาลโปรแกรม




             


แหล่งที่มา :

กุลยา  ตันติผลาชีวะ.(2551). รูปแบบการเรียนการสอนปฐมวัยศึกษา. กรุงเทพฯ : เบรน-เบส
              บุ๊ค จำกัด

อาภาพร พาชีรัตน์. (2558). แนวความคิดเกี่ยวกับโปรแกรมมาทาล. ที่มาของเว็บไซต์ :
               http://www.kroobannok.com/blog/article-78047

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น